วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551

พระเครื่องจังหวัดตรัง


พระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคลตรัง (พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง)

จังหวัดตรังเป็นอีกหนึ่งในเมืองขึ้นของนครศรีธรรมราช (นครศรีธรรมราชอดีตนั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆนะครับ) ตรังเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทยที่นำต้นยางพารามาปลูกที่อำเภอกันตัง เป็นที่ติดต่อค้าขายกับประเทศตะวันตก เช่น มอญ พม่า ลังกา อินเดีย เปอร์เซีย มานานนับพันปี เปรียบดั่งประตูเมืองประจำฝั่งทะเลตะวันตกของแหลมมลายู สัญลักษณ์ประจำจังหวัดคือ "กระโจมไฟ" มีปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองคือ พระเจดีย์วัดตันตยาภิรม เป็นเจดีย์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ซึ่งเจดีย์นี้สร้างสมัยรัตนโกสินทร์ ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองคือ "พระพุทธสิหิงค์มิ่งคงคลตรัง"
พระเกจิคณาจารย์ที่รับความนิยมเลื่อมใสและศรัทธามากที่สุดของชาวบ้านในจังหวัดตรังคือ หลวงพ่อวัน นะมะโส วัดประสิทธิชัย เหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2487 เป็นเหรียญหลักยอดนิยมของวงการพระเครื่อง นอกจากนี้ยังมีหลวงพ่อเอียด วัดหนองช้างแล่น ที่โด่งดังกับเหรียญรุ่นแรกทั้งสององค์ หลวงพ่อด้วน วัดควนธานี ผู้สร้างเหรียญหยดน้ำรุ่นแรกและพิมพ์รูปไข่ ปีพ.ศ. 2488 หลวงพ่อช่วง วัดมัชฌิมภูมิ หล่วงพ่อรุ่ง หลวงพ่อลบ วัดตรังคภูมิ หลวงพ่อสีทันดร วัดนาท่าม หลวงพ่อนิ่ม วัดไทรทอง และหลวงพ่อแสง วัดพระถ้ำพระพุทธโกษีย์ (วัดในเตา) ทุกองค์ที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็น "พระดีศรีเมืองตรัง" มีความเข้มขรังในด้านพุทธาคม และพระเครื่องที่คณาจารย์หล่านี้สร้างนั้นล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมแทบทั้งสิ้น




เหรียญยันต์กลม วัดห้วยยอด

เหรียญหลวงพ่อลบ รุ่นแรก



เหรียญหล่อโบราณ หลวงพ่อด้วน


เหรียญหลวงพ่อนิ่ม รุ่นแรก



วัตถุอาถรรพ์กะลาตาเดียว



กะลาตาเดียวที่ผ่านพิธีกรรมที่สมบูรณ์จริงๆ มาแล้วในตำราทักษามหาพยากรณ์นั้นได้กล่าวไว้ว่า เมื่อบุคคลใดก็ตามถูกพระราหูเสวยอายุหรือพระราหูแทรก ในช่วงเวลานั้นจะเกิดความรุ่มร้อนมีเคราะห์ต่างๆ เพราะพระราหูนั้นเป็นเทพอสูรเป็นความบาปเคราะห์ แม้ยามที่พระราหูจะจรพ้นการเสวยอายุหรือแทรกอายุไป ก็ยังแผลงฤทธิ์ตอนเข้าหรือตอนออกด้วย ในทักษาจึงกำหนดไว้ว่า เมื่อพระราหูเสวยอายุหรือแทรก จะต้องทำพิธีต้อนรับพระราหูและตอนที่พระราหูจรออกต้องทำพิธีส่งพระราหู หาไม่แล้วจะเดือดร้อนจนไม่อาจประคองตัวได้ถึงกับล้มละลายหรือประสบกับพิบัติต่างๆ กับตัวเองหรือบุคคลรอบข้างได้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่บุพราจารย์โบราณใช้บรรเทาฤทธิ์ของราหูได้เป็นอย่างดี คือ กะลาตาเดียวนั่นเอง

กะลาที่เป็นวัตถุมงคลธรรมชาติที่มีดีมีเทพรักษาอยู่ในตัวก็คือ กะลาตาเดียว จะมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ที่ผิดแผกไปจากธรรมชาติของกะลาทั่วไปก็คือ จะมีปากที่เป็นรูงอกหน่อหนึ่งรูและก็จะมีตาส่วนที่บุ๋มลงไปเพียงหนึ่งตาเท่านั้น โดยจะมีเส้นสาแหรกแบ่งกะลาออกเป็นสองส่วน กะลาชนิดนี้เป็นวัตถุมงคลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้ยังไม่นำมาทำพิธีกรรมก็สามารถใช้ได้แล้วแต่ไม่ดีมากนัก แต่ถ้าหากนำมาแกะเป็นรูปพระราหูแล้ว เข้าพิธีปลุกเสกผ่านพิธีกรรมที่ถูกต้องแล้วจะเป็นของขลังที่ส่งพลานุภาพให้กับผู้บูชาได้สมปรารถนาทุกปราการ แต่การที่จะหากะลาตาเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร เพราะว่ากะลามะพร้าวทั่วไปเป็นร้อยเป็นพันลูกจึงจะเจอสักลูกสองลูกถ้าผู้ใดเจอก็นับว่าโชคดีของผู้นั้นไป ผู้รู้จะใช้กะลาตาเดียวตัดครึ่งใบ นำส่วนที่มีตาเดียวไว้ใช้ตักข้าวสารหุงกิน เพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการทำมาหากินให้กับครอบครัว ไม่มีคำว่าอดอยากสมบูรณ์ทุกอย่างในการทำมาหากินประกอบอาชีพทุกๆอาชีพ

อำนาจอานุภาพสรรพคุณของกะลาตาเดียวที่นำมาแกะป็นราหูและผ่านพิธีกรรมที่สมบูรณ์มาแล้วที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ1.เป็นอำนาจทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาอุดอย่างยอดเยี่ยมที่สุด2.มีอำนาจในทางป้องกันภูตผีปีศาล ทำลายอำนาจมนต์ดำ ลบล้างอำนาจคุณไสย กันผีกันคุณไสย เสนียดจัญไรต่างๆ ลมพัดลมเพได้ดีที่สุด3.เป็นสื่อนำทรัพย์สินเงินทอง ข้าวปลาอาหารสิ่งดีๆต่างๆมาสู่ผู้บูชา คำว่าอดอยากเป็นไม่มี คือสามารถหาเงินทองมาได้ตลอดไม่ขัดสนแต่เหลือหรือไม่เหลือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง4.มีความเจริญในการทำมาหากิน เรือกสวนไร่นา รับราชการ มียศถาบรรดาศักดิ์ ค้าขายร่ำรวยทุกอาชีพหากินไม่ขัดข้องตามอาชีพ5.เป็นเมตตามหานิยมสำหรับผู้พบเห็นเข้าหาเจ้านายหรือเพศตรงข้าม6.ใช้รักษาโรค

ส่วนพระเกจิอาจารยืที่โด่งดังจากกะลาตาเดียวคือ "หลวงพ่อน้อย" วัดศรีษะทอง จ. นครปฐม ที่สร้างพระกะลาตาเดียวที่โด่งดังไปทั่วประเทศเป็นที่เฟ้นหาของนักสะสมของเซียนพระทั้งหลาย ส่วนถ้าท่านอยากชมกะลาตาเดียวหรืออยากเป็นเจ้าของนั้น ผมขอแนะนำว่าให้ไปชมที่ตลาดจตุจักรโครงการ1ร้านคุณแดงกะลาตาเดียว ซึ่งร้านนี้นั้นไม่ได้เพียงแต่จำหน่ายกะลาตาเดียวที่ผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจาย์ที่มีความรู้ทางด้านกะลาตาเดียวมาแล้วเท่านั้น แต่ยังรับทำของแฮนด์เมด อาทิเช่น กรอบพระเงิน ทองคำ ตลอดไปจนถึงกำไลทอง เงินที่ล้ำค่า ลองไปแวะชมกันได้นะครับ




กะลาตาเดียวแกะสลักเป็นรูปพระราหูทั้งใบ


กะลาตาเดียว หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง


วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

พระเครื่องจังหวัดภูเก็ต

พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมี



ภูเก็ตเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีชายหาดที่สวยงามเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในนามของ "ไข่มุกอันดามัน" เดิมภูเก็ตเรียก "เกาะถลาง" อดีตเคยเป็นหนึ่งในเมืองขึ้นของนครศรีธรรมราช มีวีรสตรีศรีสยามที่ขับไล่พม่าปกป้องเมืองถลางไว้ได้จนเป็นที่เคารพของชาวเมือง ท่านคือ "ท้าวเทพกษัตรตรี ท้าวศรีสุนทร" มีพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองคือ "พระผุด" (พระทอง) วัดพระทอง ปูชนียสถานที่สำคัญคือ "พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมี" ศิลปกรรมจำลองแบบจากพระธาตุพนม จังหวัดนครพนมภายในบรรจุพระสารีริกธาตุ พระคณาจารย์เกจิที่โด่งดังและสำคัญประจำจังหวัด ได้แก่ พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (หลวงพ่อแช่ม) วัดฉลอง ท่านเป็นผู้นำปราบกบฏอั้งยี่ที่เข้ามารุกราน และมีอภินิหารอันอัศจรรย์จนถึงต้องปิดทองที่ตัวของท่าน ท่านคือผู้สร้างผ้าประเจียดโพกศรีษระที่มีฤทธานุภาพเลื่องลือโด่งดังเหมือนกับเหรียญยอดนิยมทั้งสามรุ่นที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2473 2486 2497
ส่วนพระเกจิคณาจารย์รูปอื่นๆที่มีชื่อเสียงและโด่งดัง นอกเหนือจากหลวงพ่อแช่มแล้วยังมี หลวงพ่อช่วง วัดภูเก็ตที่โด่งดังกับเหรียญรูปไข่ หลวงพ่อหนู วัดท่าเรือ ที่โด่งดังมาจากรูปเหมือนลอยองค์และเหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อฉ้วน วัดกะตะ ที่ออกเหรียญรูปเหมือนในปี พ.ศ. 2520 พ่อท่านรอด วัดโฆษิต หลวงพ่อคล้าย วัดสว่างอารมณ์ หลวงพ่อเขี้ยว วัดป่าตอง เป็นต้น





พระบูชาหลวงพ่อแช่ม



หลวงพ่อแช่มเนื้อเงินลงยาสีแดง ปี2497

หลวงพ่อแช่ม ปี2486 หลังยันต์วรรค





หลวงพ่อแช่ม ปี2512




พระเครื่องจังหวัดพัทลุง

พระธาตุเจดีย์ วัดเขียนบางแก้ว

พัทลุงอดีตเป็นหนึ่งในเมืองขึ้นของเมืองนครศรีธรรมราช มีสำนักตักศิลาพระเวทย์ที่โด่งดังที่สุดของภาคใต้ คือสำนักเขาอ้อที่ยิ่งใหญ่ ปูชนียสถานที่สำคัญคือ พระธาตุเจดีย์วัดเขียนบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน เป็นเจดีย์ที่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมีมากมายหลายท่าน ส่วนมากจะเป็นพระเกจิอาจารย์ของสายเขาอ้อเช่น พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลาที่สร้างเหรียญรุ่นต่างๆที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน พระมหาว่านขาว-ดำ เป็นต้น พระครูสิทธยาภิรัต (พระอาจารย์เอียด) วัดดอนศาลาผู้เชี่ยวชาญสรรพวิชาของเขาอ้อ ที่โด่งดังกับพระปิดตาเนื้อโลหะพิมพ์ต่างๆ พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อท่านได้สร้างพระปิดตาไว้หลายพิมพ์และหลายเนื้อ แต่ละพิมพ์ล้วนมีประสบการณ์ให้เห็นเป็นประจักษ์กันมาบ้างแล้ว ส่วนพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆที่ไม่ใช่สายเขาอ้อแต่ได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านเช่น หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระผู้มีวาจาสิทธิ์ พระเครื่องของท่านที่เด่นดังได้แก่ พระสังกัจจายน์ พระปิดตา พระกลีบบัว เหรียญรูปเหมือน พระเครื่องของท่านแต่ละประเภทนั้นล้วนมีพุทธคุณทางด้านมหาอุด คงกระพันชาตรี แทบทั้งสิ้น และก็ยังมีพระอาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตกที่ปรากฏอภินิหารมากมายจากพระเครื่อง เนื้อโลหะผสมรุ่นต่างๆ เช่น พระฤาษี พระสังกัจจายน์ พระปิดตา เป็นต้น นอกจากนั้นก็ยังมีพระเกจิอาจารย์รูปต่างๆที่โด่งดังอีก เช่น พระอาจารย์เซ็น วัดท่ามิหรำ หลวงพ่อเหลี่ยม วัดนาท่อม พระอาจารย์ชัย วัดควรปลิง พระอาจารย์วัน วัดปากพะยูน เป็นต้น ซึ่งพระเกจิเหล่านี้โด่งดังกันจนเป็นที่รู้จักกันของคนในภาคใต้ พระเครื่องของท่านต่างมีคนอยากได้มาครอบครอง ซึ่งอาจจะหายากกันสักหน่อยนะครับ เพราะเป็นพระเกจิอาจารย์เฉพาะของภาคใต้




เหรียญพระอารจารย์นำ


พระบูชาทักษิณชินวโร รุ่นแรกเนื้อโลหะ

พระปิดตาอาจารย์ปาน พิมพ์มหาอุตม์

พระปิดตาอาจารย์เอียด พิมพ์ว่าวจุฬา


วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

พระพิฆเนศห้วยขวาง


เมื่อถึงยามราตรีเราจะนึกถึงอะไรบ้าง บางคนจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง บางคนก็จะนึกถึงร้านอาหารหรูบรรยากาศดีๆพาคนที่เรารักไปทานข้าวดื่มด่ำกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติค แต่บางคนก็จะนึกถึงสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เหมาะแก่การไปทำบุญ ขอพร สถานที่อันศักดิ์สิทธ์ที่จะกล่าวถึงนี้คือ " พระพิฆเนศห้วยขวาง "
พระพิฆเนศห้วยขวางนั้นเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับบุคคลทั่วไปหรือบุคคลที่ต้องการหาที่พึ่งทางใจยามค่ำคืน พระพิฆเนศนั้นถือเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เทพเจ้าแห่งศิลป์ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ดังนั้นใครๆที่ต้องการความสำเร็จ ต้องการปัญญา ควรต้องเคารพนับถือพระพิฆเนศก่อน ส่วนหนูที่เราเห็นว่าอยู่กับองค์พระพิฆเนศนั้นโดยทางโบราณกล่าวไว้ว่าหนูเป็นเป็นสัตว์ที่ฉลาดฉลียวสามารถกัดทุกอย่างให้ขาดได้จึงเหมาะสมแล้วที่เป็นบริวารและเป็นพาหนะของพระพิฆเนศ และการที่จะบูชาองค์พระพิฆเนศนั้นต้องมีดอกไม้สีสด เช่นดอกดาวเรือง ประกอบด้วยเครื่องเซ่นคือ ผลไม้ต่างๆหลักๆเช่นกล้วยดิบ มะพร้าวอ่อน ชมพู่เป็นต้น ใครที่สนใจจะไปสักการะเอาเป็นว่าถ้าไม่ได้นำของเหล่านี้ไปทางศาลเค้าก็จะมีเตรียมไว้พร้อมไม่ต้องห่วงแต่จะต้องเสียสตางค์กันหน่อยนะครับถือว่าเป็นการทำบุญ
เหตุที่ต้องสร้างพระพิฆเนศที่ห้วยขวางนั้นก็เพราะเมื่อสมัยก่อนนั้นที่ดินตรงแถวๆนั้นได้เกิดอุบัตติเหตุขึ้นมากมายประกอบกับที่ดินตรงนั้นมีแต่คนเดินผ่านไม่สามารถทำการค้าหรือธุรกิจใดๆได้ ต่อมาอาจารย์ สุชาติ รัตนสุข ได้มาดูที่ดินแปลงนี้และลงความเห็นว่าควรมีรูปเคารพองค์เทพตั้งไว้เพื่อแก้เคล็ดที่ดินตรงนี้ ต่อมาอาจารย์ สุชาติ รัตนสุข ท่านจึงได้มอบองค์พระพิฆเนศซึ่งประจำอยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมและให้บูรณะพื้นที่ให้ดีขึ้นแล้วนำมาจัดตั้ง เมื่อนำพระพิฆเนศมาประดิษฐานไว้เรียบร้อยแล้วก็ได้มีคนมากราบไหว้บูชาขอพนกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีทั้งดารา นักศึกษา และพวกที่ทำมาค้าขายต่างมากราบไหว้ขอพรและส่วนมากก็จะประสบพบกับความสำเร็จตามที่ได้ขอพรกันไว้ทำให้มีการมาแก้บนกันหนาตา
นอกจากจะมีองค์เทพพระพิฆเนศที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ยังมีองค์เทพต่างๆอีกมาก เช่น องค์เทพอัยรา พระศิวะและพระมหาอุมาเทวี พระตรีมูรติทรงกระบี่นิลพัท เวสสุญาณ(พิเภก) ตลอดไปจนถึง ปู่ฤาษีสัตบงกช(ปู่ให้ลาภ) ปู่ฤาษีนารอด ปู่ฤาษีปราบมาร และที่ขาดไม่ได้เลยคือมีร้านเช่าวัตถุมงคลหรือองค์พระพิฆเนศและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆดังที่กล่าวมาแก่บุคคลที่สนใจ ซึ่งวัตถุมงคลแต่ละอย่างนั้นล้วนได้รับการปลุกเสกเข้าพิธีอันขลังและศักดิ์สิทธิ์กันมาแล้ว
สุดท้ายนี้แล้วนะครับผมจึงอยากเชิญชวนทุกๆท่านที่มีความสนใจ อยากมีสิริมงคลแก่ตัวเอง อยากประสบพบความสำเร็จในชีวิตและการงาน ศาลพระพิฆเนศห้วยขวางรอท่านอยู่นะครับ และศาลพระพิฆเนศแห่งนี้นะครับไม่มีเวลาปิดพูดง่ายๆนะครับเปิดตลอด24ชั่วโมงนั่นเองครับ

มหาเทพอัยรา

พระศิวะ และ พระมหาอุมาเทวี

เวสสุญาณ (พิเภก)

พระตรีมูรติ ทรงกระบี่นิลพัท

ปู่ฤาษีปราบมาร

ปู่ฤาษีนารอด

ปู่ฤาษี สัตบงกช (ปู่ให้ลาภ)

พระพิฆเนศพร้อมพระชายา 2 พระองค์

หนูเป็นบริวารของพระพิฆเนศ
ร้านให้เช่าวัตถุมงคล

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551

พิธีการลงเลขยันต์และเครื่องสังเวยบูชา

วิชาการในเรื่องเลขยันต์นี้ เป็นวิชาที่สำคัญมากแขนงหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นลัทธิของชาติใดที่นับถือความขลังของเวทมนต์คาถา ต่างก็บัญญัติขึ้นไว้ตามรูปแบบอักขระนิยมของชาตินั้น ภาษานั้น สำหรับยันต์ของชาติอื่นๆ เช่น ยันต์ของอาหรับ ซึ่งแพร่หลายเป็นอย่างมากในทวีปยุโรปนิยมบรรจุไว้ในยันต์ถือว่าเป็นเกณฑ์กำลังของดวงดาวต่างๆ


ส่วนยันต์ที่ใช้กันอยู่ในประเทศไทยของเรานั้น นิยมใช้ยันต์ที่ลงด้วยตัวอักษร และตัวอักษรที่จารึกในยันต์ใช้ลงอักษรขอมแทนอักษรไทย เพราะถือว่าเป็นหนังสือใช้ในเรื่องศาสนามาแต่เดิม นับถือว่าขลัง ศักดิ์สิทธิ์ดีถ้าลงด้วยหนังสือไทยนั้นท่านว่าไม่ค่อยจะขลัง ตามมติของโบราณาจารย์ถือกันว่าเส้นยันต์นั้นนั้นเปรียบเสมือนสายรกของพระพุทธเจ้า ยันต์ที่นิยมลงกันนั้นแบ่งออกเป็นลักษณะหลายชนิด คือ ยันต์กลม ยันต์เหลี่ยมยันต์ชนิดสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยมเป็นต้น

ก่อนที่เราจะประกอบพิธีลงเลขยันต์นั้น จำเป็นต้องจัดหาเครื่องสักการะบูชาคุณพระรัตนตรัย เทพยาดาและครูบาอาจารย์ที่เราได้เล่าเรียนกับท่านมา ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม เพื่อที่ท่านจะได้ประสิทธ์ประสาทความสำเร็จให้ การบูชาพระรัตนตรัยนั้นก็ควรที่จะใช้ดอกไม้ ธูป เทียน เป็นเครื่องบูชา สำหรับการบูชาครูนั้น นอกจากจะมีดอกไม้ ธูป และเทียนแล้ว จำเป็นต้องมีเครื่องบูชาอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมาอืกด้วย อย่างน้อยก็ต้องมีขันครู ขันครูนั้นประกอบขึ้นด้วยขันล้างหน้า 1 ใบ เป็นขันอะลูมิเนียมหรือขันลงหินก็ได้ และต่อจากนั้นจัดทำกรวยขึ้นมา5กรวย กรวยนี้จะทำด้วยใบตองสดเย็บเป็นกรวยยอดแหลมภายในกรวยแต่ละกรวยจะบรรจุดอกบัว1ดอก ธูปหนึ่งดอก เทียนหนึ่งเล่ม หมาพลู1คำ และข้าวตอกบรรจุใส่ในกรวยทั้ง5 นั้นมีผ้าขาว ผ้าแดงอย่างละผืนขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้าใส่รองในก้นขัน แล้วเอากรวยทั้ง5มาวางลงบนผ้าขาวและผ้าแดงในขันนั้นพร้อมทั้งเงินกำนัลครูจะเป็น12บาท 6 บาท หรือ6สลึงก็ตามเงินค่ากำนัลครูนี้ เมื่อได้จัดทำพิธีเสร็จแล้ว ก็จะนำเงินนั้นไปซื้อของทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนผลบุญไปให้แก่ครูบาอาจารย์ จัดว่าเป็นธรรมพลีคู่กับอามิษพลีที่บูชาด้วยสิ่งของอย่างอื่น ขันครูนี้เป็นเครื่องบูชาชนิดย่อที่จัดทำขึ้นมาเป็นสังเขป เมื่อจะทำพิธีลงเลขยันต์ ถ้าหากจะจัดทำให้เต็มที่ นอกจากะมีขันครูแล้วก็ต้องจัดเครื่องสังเวยบูชา อันประกอบด้วย มัจฉามังสาหาร6ประการ และเครื่องกระยาบวด

มัจฉามังสาหาร6นั้นประกอบด้วย 1.หัวหมู 2.เป็ด 3.ไก่ 4.กุ้ง 5.ปูทะเล 6.ปลาช่อน และเครื่องกระยาบวดประกอบด้วย 1.บายศรีปากชาม 2.กล้วยนำไทหวีงามๆ1หวี 3.มะพร้าวอ่อน1ลูก 4.ขนมต้มขาว 5.ขนมต้มแดง 6.ขนมแกงบวช 7.ขนมหวานสด9อย่าง เช่นทองหยิบ ทองหยอด 8.ขนมหวานแห้ง9อย่าง เช่นขนมผิง ขนมสัมปะนี 9.ขนมเครื่องจันอับ 10.นม เนย 11.ถั่วคั่ว งาคั่ว 12.ถั่วดิบ งาดิบ 13.เผือกต้ม มันต้ม 14.ผลไม่9อย่างรวมกัน1พาน ส่วนมากใช้ผลไม่ที่มีรสหวาน 15.ข้าวตอก1พานระคนด้วยดอกไม้ 16.หมากพลู บุหรี่1พาน 17.ดอกไม้9สี1พาน 18.น้ำเย็น1แก้ว 19.โถแป้งหอมละลายน้ำหอม1โถ 20.เทียนเงินเทียนทอง1คู่ หนักเล่มละ4บาท ไส้เทียน16เส้นปิดทองคำเปลวและเงินเปลว นอกจากนั้นมีธูปหอมสำหรับจุดปักบนเครื่องสังเวยเหล่านี้

เมื่อจัดหาสิ่งของตามที่กล่าวไว้ข้างต้นครบถ้วนแล้วจึงให้วางลงที่ตรงหน้าพระบูชา หรือถ้าทำที่พระอุโบสถก็ให้วางไว้ที่ตรงหน้าพระประธาน ก่อนที่จะวางก็ให้ปูผ้าขาวรองก่อน อันดับแรกนั้นให้จุดธูปบูชาคุณพระรัตนตรัยก่อน สำรวมจิต ตั้งสมาธิให้มั่นแล้วนึกถึงคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พรสังฆเจ้า ขออาราธนาคุณท่านมาเป็นที่พึ่ง

สำหรับพิธีการลงเลขยันต์ และเครื่องสังเวยบูชานั้นก็จะมีบทสวดคาถาอาคมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะครับ ส่วนบทสดคาถาอาคมที่จะต้องสวดภาวนานั้นประกอบด้วย บทสวดคาถาสรรเสริญบูชาพระรัตนตรัย คาถาชุมนุมเทวดา คาถาถวายเครื่องสังเวย คาถาสำหรับนมัสการครูอาจารย์ บทสวดคาถาโองการเทพชุมนุมไหว้ครู เมื่อบริกรรมสวดคาถาที่ได้กล่าวมาจนหมดแล้วนั้นเราก็สามารถเริ่มปลุกเสกเลขยันต์ได้ตามใจปราถนา

เครื่องกระยาบวช

เครื่องสังเวย



ยันต์กลม


ยันต์เหลี่ยม